วิถีชีวิตชุมชนท่าแร้ง (เข้าชม 793 ครั้ง)
วิถีชีวิตของชุมชนมุสลิม ชาวมุสลิมในตำบลท่าแร้งมีวิถีที่ต้องทำ เช่น เด็กเกิดใหม่ ต้องโกนผมไฟภายใน 7วัน และต้องมีการเชือดวัวเพื่อทำบุญให้กับเด็ก เรียกว่า “ กุรุบั่น”เด็กผู้ชายต้องมีการทำสุหนัต (ขลิบ) เมื่ออายุ 4 ขวบ ขึ้นไป หรือจะทำก่อนก็ได้ แต่บังคับต้องทำทุกคน พอเริ่มอ่านออกเขียนได้ ทั้งเด็กชายและเด็กหญิง ต้องเรียนหนังสือแขก(หนังสืออัลกุระอ่าน) และต้องอ่านหนังสือให้รู้หลักศาสนาทุกคน คือการละหมาด หรือ ดุอา การละหมาดเป็นภารกิจประจำวัน ต้องละหมาด 5 เวลา คือ 1.เวลา 04.30 น. ซูโบ๊ะ มี 2 รอกะอัต 2.เวลา 12.30 น. ดุฮ์ริ มี 4 รอกะอัต 3.เวลา 15.30 น. อัซริ มี 4 รอกะอัต 4.เวลา 18.30 น. มัคริริ มี 3 รอกะอัต 5.เวลา 20.00 น. อีซอ(อาซา) มี 4 รอกะอัต เมื่ออ่านออกเขียนได้ต้องให้เรียนรู้การละหมาด ผู้ชายหรือผู้หญิงต้องทำการละหมาด เช่นนี้ทุกวัน ถ้าไม่ทำจะเกิดโทษต่อพ่อแม่ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันที่ 1มูฮัรรัม เป็นวันขึ้นปีใหม่ของอิสลาม แต่ก็ไม่ตรงกันทุกปี เดือนเซาวาล เป็นวันอัฎิลฟิตริ (ออกบวช) เป็นวันที่ชาวมุสลิมถือศีลอดให้ครบ30วัน ต้องอดอาหารตั้งแต่ 04.30 น.ถึง 18.00 น.จึงละศีลอดได้ แต่ละปีจะไม่ตรงกัน คนที่ถือศีลอดผู้ชายอายุ 12 ขวบ ผู้หญิง 10 ขวบ ขึ้นไป ถ้าถือศีลอดไม่ครบ 30วัน ต้องถือศีลอดใช้ให้ครบ หลังจากวันละศีลแล้ว หลังจากเดือนเซาวาล(ถือศีลอด) แล้ว 3 เดือน ก็ถึงวัน ซุลฮิจยะห์เป็นวันอีฎิลอัดฮา (ออกละหมาด) ชาวมุสลิมจะไปทำบุญที่มัสยิดกลาง และก็จะออกเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง ผู้สูงอายุเมื่อตายก็เรียก การทำมะยัด ต้องอาบน้ำให้สะอาดทั้งตัว แล้วห่อด้วยสำลีที่มีจันทร์หอมเป็นผงโรยห่อตามด้วยผ้าขาว3 ชั้น แล้วนำมะยัดไปละหใด มะยัดที่มัสยิด เพื่อนำไปฝังที่กุโบฮร์ ภายในเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากเสียชีวิตสำหรับคนที่มีความพร้อมที่ไปทำฮัจย์ ที่เมืองเมกกะฮ์ ก็ต้องทำฮัจย์ไม่ว่าหญิง หรือชาย แต่ถ้าไม่พร้อมที่จะทำหรือเสียชีวิตก่อน ต้องให้ลูกหลานทำให้ ถ้าทำให้คนที่ตายไปแล้วเรียกว่า มูเป๊าะฮายี |
|